ไขข้อข้องใจว่า ปฏิบัติการ London Bridge คืออะไร แผนลับพิเศษของรัฐบาลที่เตรียมความพร้อมหาก ควีนเอลิซาเบธสวรรคต จากข่าวการ สมเด็จพระราชินีนาถ เอลิซาเบธ ที่ 2 ราชินีอังกฤษ สวรรคต นั้นมีคำนึงที่ถูกกล่าวถึงเป็นอย่างมากคือ Operation London Bridge (ปฏิบัติการสะพานลอนดอน) หรือ London Bridge is Down ซึ่งเป็นโค้ดลับการเตรียมพร้อมหากวันที่ควีนเอลิซาเบธสวรรคต
สำหรับ London Bridge is Down เป็นแผนที่ถูกสร้างขึ้นมาตั้งแต่ในช่วงยุค 60 และมีการเปลี่ยนแปลง 3 ครั้ง
เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมหากวันที่ควีนเอลิซาเบธสวรรคตมาถึง จะมีการจัดแผนงานศพอย่างไรบ้าง เลขาส่วนตัวของราชินี จะเป็นเจ้าหน้าที่ของทางการคนแรกที่ทราบข่าวการสวรรคต จะแจ้งข่าวให้นายกรัฐมนตรีผ่านทางโทรศัพท์ และกล่าวว่า “London Bridge Is Down” เพื่อแจ้งให้ทราบถึงการจากไปของควีนเอลิซาเบธ จากนั้นทางการอังกฤษก็จะกระจายข่าวให้รัฐมนตรีและรัฐบาลของประเทศในเครือจักรภพ 14 ประเทศ
ขณะที่สื่อโทรทัศน์และวิทยุจะได้รับสัญญาณผ่านแสงไฟสีฟ้า ว่าให้เตรียมตัวแจ้งข่าวการสวรรคตหรือสิ้นพระชนม์ของราชวงศ์ แม้ว่าจะยังไม่ทราบว่าเป็นใคร แต่ทางสถานีจะเปลี่ยนเพลงเศร้าและไม่ใช่เพลงที่มีเนื้อหารุนแรง เพื่อเตรียมพร้อมแจ้งข่าวให้ประชาชน
BBC สื่อประจำชาติของอังกฤษจะได้รับการแจ้งเตือนพิเศษ และผู้ประกาศจะเปลี่ยนเนคไทน์เป็นสีดำ ทางสถานีจะเปิดภาพพระบรมฉายาลักษณ์ของควีนเอลิวาเบธ และเล่นเพลงชาติของอังกฤษ ก่อนแจ้งข่าวเศร้ากับพสกนิกรอังกฤษ ธงชาติอังกฤษจะถูกลดลงครึ่งเสา แต่ธงของราชวงศ์อังกฤษจะไม่ถูกลดลง เพราะว่าตามกฎหมายของอังกฤษนั้นระบุว่า ราชวงศ์อังกฤษคงอยู่เสมอ
สำหรับการเคลื่อนย้าย พระโกศ นั้นจะต่างออกไปขึ้นอยู่กับว่าพระองค์สวรรคตที่ใด โดยควีนเอลิซาเบธ สวรรคตที่ ปราสาทบาลมอรัล ในประเทศสกอตแลนด์ ดังนั้นจะเป็นทางการสกอตแลนด์ที่ทำหน้าที่เคลื่อนย้ายพระโกศและเริ่มปฏิบัติการ Operation Unicorn
พระโกศของควีนเอลิซาเบธจะถูกตั้งไว้ที่ปราสาทโฮลีรูท และท้ายที่สุดจะถูกนำเคลื่อนย้ายด้วยรถไฟราชวงศ์อังกฤษ
เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ หรือ พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 มีพระนามเต็มว่า “ชาร์ลส์ ฟิลิป อาร์เธอร์ จอร์จ” ประสูติเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2491 ณ พระราชวังบักกิงแฮม กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ พระบิดาคือเจ้าชายฟิลิป ดยุกแห่งเอดินบะระ และพระมารดาคือสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ปัจจุบัน พระเจ้าชาร์ลที่ 3 มีอายุ 73 พรรษา
พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 มีพระยศตั้งแต่ประสูติว่า “เจ้าชายชาร์ลส์แห่งเอดินบะระ” เนื่องจากพระเจ้าจอร์จที่ 6 ผู้เป็นพระอัยกา (ตา) ได้มีพระราชโองการให้พระราชโอรสและพระราชธิดาของเจ้าหญิงเอลิซาเบธ (ควีนเอลิซาเบธที่ 2) ดำรงตำแหน่งเจ้าหญิงและเจ้าชายแห่งสหราชอาณาจักรได้ตั้งแต่เกิด
พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 มีพี่น้องทั้งหมด 3 พระองค์ ได้แก่ เจ้าหญิงแอนน์ เจ้าชายแอนดรูว์ ดยุกแห่งยอร์ก และ เจ้าชายเอ็ดเวิร์ด เอิร์ลแห่งเวสเซกซ์ โดยหลังจากที่พระราชมารดาขึ้นครองราชย์เป็นควีนเอลิซาเบธที่ 2 กษัตริย์ชาร์ลส์ที่ 3 ก็ได้รับพระอิสริยยศเป็นดยุกแห่งคอร์นวอลล์
ทั้งนี้ กษัตริย์ชาร์ลส์ที่ 3 ก็ยังได้ดำรงพระอิสริยยศเป็นดยุกแห่งรอธซีย์ เอิร์ลแห่งคาร์ริก บารอนแห่งเรนฟรูว์ ลอร์ดแห่งไอลส์ เจ้าชายและข้าหลวงใหญ่แห่งสกอตแลนด์ และในปัจจุบันก็ดำรงพระยศเป็น “พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3” หลังควีนเอลิซาเบธที่ 2 สวรรคต
ชีวิตในวัยเด็กของกษัตริย์ชาร์ลส์ที่ 3 นั้นมีเหตุให้ต้องแยกจากพระมารดาตั้งแต่อายุเพียง 1 ขวบ เนื่องพระมารดาเดินทางติดตามพระสวามีที่เป็นทหารเรือไปยังประเทศอื่น จึงทำให้พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ต้องอยู่ในการดูแลของพี่เลี้ยงเป็นส่วนใหญ่
อีกเหตุการณ์หนึ่งที่ทำให้เห็นว่าความสัมพันธ์ของพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 กับพระมารดา หรือ ควีนเอลิซาเบธที่ 2 ค่อนข้างห่างเหินกัน คือเหตุการณ์ที่ควีเอลิซาเบธเสด็จกลับจากการปฏิบัติพระราชกรณียกิจ และทรงงานต่อทันทีถึง 4 วัน อีกทั้งยังเสด็จชมการแข่งม้าอีก 1 วัน แทนที่จะเดินทางไปหาพระโอรสก่อน
แต่อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ดังกล่าวก็ไม่ได้เป็นตัวตัดสินต่อความรักที่พระมารดามีต้อเจ้ากษัตริย์ชาร์ลส์ที่ 3 เพราะในช่วงเจริญวัยและต้องเข้ารับการศึกษา ทางเจ้าชายฟิลิปและควีเอลิซาเบธที่ 2 ตั้งใจไว้ว่าจะให้กษัตริย์ชาร์ลส์ที่ 3 ได้รับการศึกษาแบบปกติ
เหตุนี้เองจึงทำให้กษัตริย์ชาร์ลส์ที่ 3 ในฐานะรัชทายาทของอังกฤษพระองค์แรก ได้รับการศึกษาในโรงเรียนแบบปกติทั่วไป ณ โรงเรียนฮิลล์ เฮาส์ ในกรุงลอนดอน สำหรับการศึกษาในระดับอุดมศึกษา พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ทรงจบจากมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ ทรงเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านอักษรศาสตร์และประวัติศาสตร์
หลังสำเร็จการศึกษา กษัตริย์ชาร์ลส์ที่ 3 ก็ได้เดินตามรอยพระราชบิดาด้วยการสมัครเป็นทหาร ทรงพระปรีชาสามารถและสอบผ่านหลักสูตรนักบินเฮลิคอปเตอร์ได้ และหลังจากที่เข้าประจำการ ณ ฐานทัพอากาศแครนเวลล์ ก็ได้ย้ายไปเป็นศึกษาวิชาทหารเรือ ในภายหลังพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ก็ได้รับตำแหน่งเป็นผู้บังคับการเรือทำลายทุ่นระเบิด HMS Bronington และในภายหลังก็ได้ดำรงตำแหน่งเป็นผู้บังคับการเรือรบราชนาวีอังกฤษ และเมื่อมีพระชนมายุได้ 28 พรรษา กษัตริย์ชาร์ลส์ที่ 3 ก็ได้ทรงก่อตั้งองค์กรการกุศล โดยเป็นองค์กรที่ทำงานในหลากหลายด้าน
แนะนำ : รีวิวซีรี่ย์เกาหลี | ลายสัก | รีวิวร้านอาหาร | โทรศัพท์มือถือ ราคาถูก | เรื่องย่อหนัง